ถุงมือไนไตร เป็นถุงมือที่ไมได้ผลิตจากยางธรรมชาติ จึงทำให้ผู้ใช้งานไม่เกิดอาการแพ้ยาง ซึ่งข้อดีของถุงมือไนไตรทนต่อสารเคมีได้ดี มีความเหนียวกว่าถุงมือยางธรรมชาติ จึงทำให้ขาดหรือแตกยาก และรั่วได้ยากกว่า จะเห็นได้ว่าถุงมือไนไตรมีหลายสี ซึ่งแต่ละสีนั้นแตกต่างกันอย่างไร ห้างหุ้นส่วนจำกัด โปรเฟส ซัพพลาย มีคำตอบมาฝาก
ถุงมือยางสังเคราะห์ ที่มีความทนทานต่อน้ำมัน สารเคมี เป็นถุงมือที่ใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดและความสะอาดสูง ใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมความงาม งานด้านการแพทย์ และงานทั่วไป
ถุงมือแบบหนา ทนทาน ที่ใช้งานได้นานกว่าถุงมือทั่วไป ซึ่งสามารถใช้กับงานบ้าน งานเกษตร สามารถใช้งานในร้านเสริมสวยได้ ป้องกันสารเคมีจากผลิตภัณฑ์สีผม ใช้ในห้องปฏิบัติการ หากจะใส่ทำอาหารก็สามารถใช้งานได้
ผลิตจากยางสังเคราะห์ ซึ่งทนต่อการฉีกขาดได้ดีกว่า แข็งแรง ทนทาน โดยถุงมือไนไตร สีม่วง เหมาะกับงานเคมี งานห้องปฏิบัติการ สามารถใช้ใส่ทำอาหารได้อย่างปลอดภัย
ถุงมือที่ผลิตจากยางสังเคราะห์ ทนต่อสารเคมีทุกชนิด และมีความเหนียวและทนทานกว่า ฉีดขาดยากกว่าถุงมือยางธรรมชาติ ซึ่งสามารถใส่ใช้งานได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ทางการแพทย์ ใส่ทำอาหาร งานเคมี งานห้องปฏิบัติการ
เป็นถุงมือแบบหนาที่สามารถใช้งานในอุตสาหกรรมทั่วไป มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ทนทานต่อสารเคมี มีความปลอดภัยสามารถใส่ทำอาหารได้
ถุงมือไนไตร จะผลิตจากยางสังเคราะห์ ส่วนถุงมือยางธรรมชาติจะผลิตจากยางพารา โดยถุงมือไนไตรจะเป็นที่นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมที่ต้องมีการสัมผัสน้ำมัน ไขมัน อาทิเช่น อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ งานด้านอาหาร งานโรงงาน เป็นต้น
ถุงมือยางธรรมชาติจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้สะดวกและง่ายในการสวมใส่ ซึ่งถุงมือยางธรรมชาติมีจุดเด่นคือ สามารถใช้ในงานที่ต้องอาศัยความละเอียดสูง ได้แก่ งานประกอบชิ้นงานเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบชิ้นงานอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยให้สามารถหยิบจับวัสดุชิ้นเล็กๆ ได้อย่างสะดวก
ถ้าหากให้เปรียบเทียบระหว่างถุงมือยางธรรมชาติกับถุงมือไนไตร ถุงมือไนไตรจะมีความทนทานมากกว่า ทนต่อการฉีกขาดได้ดีกว่า จะเห็นได้จากอุตสาหกรรมหนัก ที่นิยมนำถุงมือไนไตรมาใช้ เพราะคงทนและมีระยะการใช้ที่นานกว่า
ถุงมือไนไตรจะเหมาะกับผิวที่แพ้โปรตีน เนื่องจากถุงมือยางธรรมชาติจะมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผู้สวมใส่บางรายอาจเกิดการแพ้ได้ แต่ทั้งนี้สามารถเลือกใช้ถุงมือยางธรรมชาติ ชนิดไม่มีแป้ง ก็สามารถป้องกันการแพ้ที่จะเกิดขึ้นได้ และยังปลอดภัยในการสัมผัสอาหารได้
ทั้งนี้การเลือกซื้อหรือการเลือกใช้งานถุงมือยาง จะเลือกได้จากประเภทของงานหรือลักษณะของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ถุงมือทางการแพทย์ ถุงมือสำหรับใช้ในครัวเรือน และถุงมือสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถยืดอายุการใช้งานได้ ทั้งนี้ยังช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองได้อีกด้วย ซึ่งความแตกต่างในการใช้งาน มีดังนี้
จะต้องมีความบาง เนื่องจากต้องสัมผัสเพื่อตรวจและวินิจฉัย และต้องมีความยืดหยุ่นสูง กระชับและพอดีกับสรีระมือของผู้ใช้ เพื่อให้คล่องต่อการหยิบจับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่เป็นเป็นอุปสรรคต่อการลงมือปฏิบัติ
ถุงมือที่ใช้ในครัวเรือนอาจจะใช้ในการทำงานบ้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทำความสะอาดบ้าน ล้างจาน ล้างรถ เก็บขยะ เป็นต้น หรือแม้แต่ถุงมือที่ใช้ในร้านอาหารหรือตามร้านค้า จะเป็นถุงมือแบบฟู้ดเกรด ปลอดภัยสามารถสัมผัสกับอาหารได้
ต้องดูก่อนว่าอุตสาหกรรมนั้นเป็นอุตสาหกรรมประเภทใด ซึ่งหากเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องสัมผัสกับอาหาร ก็ต้องเลือกที่เป็นถุงมือยางแบบฟู้ดเกรด หรือถุงมืออุตสาหกรรมทางการแพทย์ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของสุขอนามัยสูงสุด แต่ถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเครื่องจักรก็ต้องใช้ถุงมือยางแบบหนาที่มีความทนทานสูง
ทั้งนี้การจะเลือกใช้งานถุงมือยางอาจจะต้องพิจารณาจากหลายๆ ปัจจัยเพื่อการตัดสินใจ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด โปรเฟส ซัพพลาย จำกัด ให้บริการรับผลิต และจัดจำหน่ายถุงมือ ภายใต้แบรนด์ลิขสิทธิ์ Glove PFS เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีตั้งแต่ถุงมือไนไตร (Nitrile) ถุงมือยางธรรมชาติ (Latex) ชนิดมีแป้งและไม่มีแป้ง ทนทาน ใช้งานเบาสบายมือ เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่าที่มีคุณภาพและราคาที่ย่อมเยา
-------------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ถุงมือยางธรรมชาติ มีคุณสมบัติอย่างไร